วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
สนุกกับคำคมวันละนิด
วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
เทศกาลวันแม่
วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
โรคมือเท้าปากที่ควรรู้
โรคมือเท้าปากเปื่อย Hand foot mouth syndrome
เป็นโรคทมักพบการติดเชื้อในกลุ่มทารกและเด็กเล็ก แต่บางรายจะมีอาการรุนแรง ขึ้นอยู่กับชนิดของไวรัสที่มีการติดเชื้อ
โรค HFMD ส่วนใหญ่พบในเด็กอายุน้อยกว่า 10 ปี โดยเฉพาะอายุต่ำกว่า 5 ปี มีอาการไข้ร่วมกับตุ่มเล็กๆ เกิดขึ้นที่ผิวหนังบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า และในปาก ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง หายได้เอง ส่วนน้อยอาจมีอาการทางสมองร่วมด้วย ซึ่งอาจทำให้รุนแรงถึงเสียชีวิตได้ ส่วนใหญ่พบในเด็กอายุ 1-7 ปี ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อ coxsackievirus A1 และ EV71 ผู้ป่วยจะมีไข้ฉับพลันและมีแผลเปื่อยเล็กๆ ในลำคอบริเวณเพดาน ลิ้นไก่ ทอนซิล มีอาการเจ็บคอมากร่วมกับมีน้ำลายมาก ยังไม่เคยมีรายงานการเสียชีวิต และอาจมีอาการกลืนลำบากปวดท้องและอาเจียน โรคจะเป็นอยู่ 3 - 6 วัน และมักจะหายเอง
โรคมือเท้าปากจะเกิดเชื้อไวรัสกลุ่ม Enterovirus genusซึ่งเชื้อโรคในกลุ่มนี้ประกอบไปด้วย polioviruses, coxsackieviruses, echoviruses, and enteroviruses.
สาเหตุ
เกิดจากเชื้อไวรัสในกลุ่ม Enteroviruses ที่พบเฉพาะในมนุษย์ ซึ่งมีหลายสายพันธุ์ โรคปากเท้าเปื่อยส่วนใหญ่เกิดจาการติดเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า coxsackie A16 มักไม่รุนแรง เด็กจะหายเป็นปกติภายใน 7-10 วัน ส่วนที่เกิดจากEnterovirus 71 อาจเป็นแบบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ Aseptic meningitis ที่ไม่รุนแรง หรือมีอาการคล้ายโปลิโอ ส่วนที่รุนแรงมากจนอาจเสียชีวิตจะเป็นแบบสมองอักเสบ encephalitis ซึ่งมีอาการอักเสบส่วนก้านสมองทำให้หมดสติ หากเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจะทำให้เกิดหัวใจวาย ความดันโลหิตจะต่ำ มีอาการหัวใจวาย และ/หรือมีภาวะน้ำท่วมปอด
อาการ
ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการป่วย หรืออาจพบอาการเพียงเล็กน้อย เช่น มีไข้ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ ปวดเมื่อย เป็นต้น จะปรากฏอาการดังกล่าว 3-5 วัน แล้วหายได้เอง สำหรับผู้ที่มีอาการมักจะเริ่มด้วยไข้ เบื่ออาหาร ครั่นเนื้อครั่นตัวเจ็บคอ หลังจากไข้ 1-2 วันจะเห็นแผลแดงเล็กๆที่ปากโดยเป็นตุ่มน้ำในระยะแรกและแตกเป็นแผล ตำแหน่งของแผลมักจะอยู่ที่เพดานปาก หลังจากนั้นอีก1-2 วันจะเกิดผื่นที่มือและเท้า แต่ก็อาจจะเกิดที่แขน และก้นได้ เด็กที่เจ็บปากมากอาจจะขาดน้ำ
ไข้ มีอาการไข้สูงอาจเกิน 39 องศาเซลเซียส 2 วันแล้วจะมีไข้ต่ำๆ ประมาณ 37.5 - 38.5 องศาเซลเซียส อีก 3-5 วัน
เจ็บคอเจ็บในปากกลืนน้ำลายไม่ได้ ไม่กินอาหาร
พบตุ่มแผลในปาก ส่วนใหญ่พบที่เพดานอ่อนลิ้น กระพุ้งแก้ม อาจมี 1 แผล หรือ 2-3 แผล ขนาด 4-8 มิลลิลิตร เป็นสาเหตุให้เด็กไม่ดูดนม ไม่กินอาหารเพราะเจ็บ
ปวดศีรษะ
พบตุ่มพอง (vesicles) สีขาวขุ่นบนฐานรอบสีแดง ขนาด 3-7 มิลลิเมตร บริเวณด้านข้างของนิ้วมือ นิ้วเท้า บางครั้งพบที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ส้นเท้า ส่วนมากมีจำนวน 5-6 ตุ่ม เวลากดจะเจ็บ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยแตกเป็นแผล จะหายไปได้เองในเวลาประมาณ 1 สัปดาห์
เบื่ออาหาร
เด็กจะหงุดหงิด
ในเด็กโตจะบ่นปวดศีรษะ ปวดหลัง อาจมีอาเจียน เจ็บคอ น้ำลายไหล จากนั้นจะพบตุ่มพองใส ขนาด 1-2 มิลลิเมตร 2 ข้างของบริเวณเหนือต่อมทอนซิล (anteriar fauces) ซึ่งอาจแตกเป็นแผล หลังจากระยะ 2-3 วันแรก แผลจะใหญ่ขึ้นเป็น 3-4 มิลลิเมตร จะเห็นเป็นสีขาวเหลืองอยู่บนฐานสีแดงโดยรอบ ทำให้มีอาการเจ็บคอหรือกลืนลำบากเวลาดูดนมหรือกินอาหาร เด็กจะมีอาการน้ำลายไหล ส่วนใหญ่จะหายได้เองภายใน 3-6 วัน ยังไม่เคยมีรายงานการเสียชีวิต
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จากลิงค์ข้างล่าง
http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/infectious/hand_foot_mouth/hand_foot_mo.htm
เป็นโรคทมักพบการติดเชื้อในกลุ่มทารกและเด็กเล็ก แต่บางรายจะมีอาการรุนแรง ขึ้นอยู่กับชนิดของไวรัสที่มีการติดเชื้อ
โรค HFMD ส่วนใหญ่พบในเด็กอายุน้อยกว่า 10 ปี โดยเฉพาะอายุต่ำกว่า 5 ปี มีอาการไข้ร่วมกับตุ่มเล็กๆ เกิดขึ้นที่ผิวหนังบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า และในปาก ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง หายได้เอง ส่วนน้อยอาจมีอาการทางสมองร่วมด้วย ซึ่งอาจทำให้รุนแรงถึงเสียชีวิตได้ ส่วนใหญ่พบในเด็กอายุ 1-7 ปี ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อ coxsackievirus A1 และ EV71 ผู้ป่วยจะมีไข้ฉับพลันและมีแผลเปื่อยเล็กๆ ในลำคอบริเวณเพดาน ลิ้นไก่ ทอนซิล มีอาการเจ็บคอมากร่วมกับมีน้ำลายมาก ยังไม่เคยมีรายงานการเสียชีวิต และอาจมีอาการกลืนลำบากปวดท้องและอาเจียน โรคจะเป็นอยู่ 3 - 6 วัน และมักจะหายเอง
โรคมือเท้าปากจะเกิดเชื้อไวรัสกลุ่ม Enterovirus genusซึ่งเชื้อโรคในกลุ่มนี้ประกอบไปด้วย polioviruses, coxsackieviruses, echoviruses, and enteroviruses.
สาเหตุ
เกิดจากเชื้อไวรัสในกลุ่ม Enteroviruses ที่พบเฉพาะในมนุษย์ ซึ่งมีหลายสายพันธุ์ โรคปากเท้าเปื่อยส่วนใหญ่เกิดจาการติดเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า coxsackie A16 มักไม่รุนแรง เด็กจะหายเป็นปกติภายใน 7-10 วัน ส่วนที่เกิดจากEnterovirus 71 อาจเป็นแบบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ Aseptic meningitis ที่ไม่รุนแรง หรือมีอาการคล้ายโปลิโอ ส่วนที่รุนแรงมากจนอาจเสียชีวิตจะเป็นแบบสมองอักเสบ encephalitis ซึ่งมีอาการอักเสบส่วนก้านสมองทำให้หมดสติ หากเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจะทำให้เกิดหัวใจวาย ความดันโลหิตจะต่ำ มีอาการหัวใจวาย และ/หรือมีภาวะน้ำท่วมปอด
อาการ
ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการป่วย หรืออาจพบอาการเพียงเล็กน้อย เช่น มีไข้ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ ปวดเมื่อย เป็นต้น จะปรากฏอาการดังกล่าว 3-5 วัน แล้วหายได้เอง สำหรับผู้ที่มีอาการมักจะเริ่มด้วยไข้ เบื่ออาหาร ครั่นเนื้อครั่นตัวเจ็บคอ หลังจากไข้ 1-2 วันจะเห็นแผลแดงเล็กๆที่ปากโดยเป็นตุ่มน้ำในระยะแรกและแตกเป็นแผล ตำแหน่งของแผลมักจะอยู่ที่เพดานปาก หลังจากนั้นอีก1-2 วันจะเกิดผื่นที่มือและเท้า แต่ก็อาจจะเกิดที่แขน และก้นได้ เด็กที่เจ็บปากมากอาจจะขาดน้ำ
ไข้ มีอาการไข้สูงอาจเกิน 39 องศาเซลเซียส 2 วันแล้วจะมีไข้ต่ำๆ ประมาณ 37.5 - 38.5 องศาเซลเซียส อีก 3-5 วัน
เจ็บคอเจ็บในปากกลืนน้ำลายไม่ได้ ไม่กินอาหาร
พบตุ่มแผลในปาก ส่วนใหญ่พบที่เพดานอ่อนลิ้น กระพุ้งแก้ม อาจมี 1 แผล หรือ 2-3 แผล ขนาด 4-8 มิลลิลิตร เป็นสาเหตุให้เด็กไม่ดูดนม ไม่กินอาหารเพราะเจ็บ
ปวดศีรษะ
พบตุ่มพอง (vesicles) สีขาวขุ่นบนฐานรอบสีแดง ขนาด 3-7 มิลลิเมตร บริเวณด้านข้างของนิ้วมือ นิ้วเท้า บางครั้งพบที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ส้นเท้า ส่วนมากมีจำนวน 5-6 ตุ่ม เวลากดจะเจ็บ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยแตกเป็นแผล จะหายไปได้เองในเวลาประมาณ 1 สัปดาห์
เบื่ออาหาร
เด็กจะหงุดหงิด
ในเด็กโตจะบ่นปวดศีรษะ ปวดหลัง อาจมีอาเจียน เจ็บคอ น้ำลายไหล จากนั้นจะพบตุ่มพองใส ขนาด 1-2 มิลลิเมตร 2 ข้างของบริเวณเหนือต่อมทอนซิล (anteriar fauces) ซึ่งอาจแตกเป็นแผล หลังจากระยะ 2-3 วันแรก แผลจะใหญ่ขึ้นเป็น 3-4 มิลลิเมตร จะเห็นเป็นสีขาวเหลืองอยู่บนฐานสีแดงโดยรอบ ทำให้มีอาการเจ็บคอหรือกลืนลำบากเวลาดูดนมหรือกินอาหาร เด็กจะมีอาการน้ำลายไหล ส่วนใหญ่จะหายได้เองภายใน 3-6 วัน ยังไม่เคยมีรายงานการเสียชีวิต
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จากลิงค์ข้างล่าง
http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/infectious/hand_foot_mouth/hand_foot_mo.htm
ที่เปิดขวดแม่เหล็กที่คุณออกแบบเองก็ได้
วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
ท้องฟ้ามืดครึ้ม
วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
แฟนคลับ ไหมไทย หัวใจเดิม
วันนี้ต้องขอขอบพระคุณ แฟนคลับ พี่ไหมไทย หัวใจเดิม ที่มาอุดหนุน พวงกุญแจและเข็มกลัด "คนหน้าตาดี" ทางทีมงานคนหน้าตาดีหวังเป็นอย่างยิ่งคงจะได้รับใช้แฟนคลับของใครอีกหลายๆ คน สินค้าของเรามีมากมายหลายชนิดด้วยกัน ทั้งเข็มกลัด พวงกุญแจ ที่เปิดขวดแม่เหล็ก พวงกุญแจแบบกระจก แก้ว และเสื้อเป็นต้น ส่งไฟน์ทำได้ทันที หรือลูกค้าจะออกแบบเองก็ได้เช่นกันไม่มีข้อจำกัดใดๆ ทั้งสิ้น คลิ๊กเพื่อดูรายละเอียดงานจากลิงค์ด้านล่างได้
วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
แก้ว "คนหน้าตาดี"
วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
เสื้อเด็ก
http://www.siamshop.com/n6uy8q88ct92345
วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
ข่าวสารดีๆ
เภสัชกรค้านโครงการยาแลกไข่ รอบ 2 ทำคนเข้าใจเรื่องการบริโภคยา
กรุงเทพฯ 7 ก.ค.- เภสัชกร ค้านโครงการยาแลกไข่ รอบ 2 ทำคนเข้าใจใช้เรื่องการบริโภคยา ชี้ต่อไปคนไทยรับประทานยาไม่ครบจำนวนโด๊ส หวังนำยาแลกไข่ พร้อมเตือนยาที่เหลือคืนกลับระบบไม่ควรนำมาจ่ายซ้ำ เพราะอาจเป็นยาเสื่อมอายุ ทั้งนี้ เพราะส่วนใหญ่คนไทยบริโภคและเก็บยาผิดวิธี
รศ.ดร.จิราพร ลิ้มปานานนท์ สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวถึงโครงการยาแลกไข่ของกระทรวงสาธารณสุขว่า ไม่สามารถทำให้ได้ตัวเลขที่แท้จริงของการใช้ยาในครัวเรือนจากการเก็บยาเก่ามาแลกไข่นั้น และการอ้างว่าอาจนำยาเก่าที่ใช้ได้มาหมุนเวียนนั้น ในทางหลักการแล้ว จะต้องไม่มีการนำยาที่จ่ายไปแล้วกลับมาใช้หมุนเวียนบริโภคใหม่ เพราะยาที่กลับมานั้นอาจไม่มีคุณภาพ เนื่องจากการเก็บรักษาอาจไม่ถูกต้อง ทำให้ยาหมดอายุเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนให้เกิดโครงการยาแลกไข่อีกนั้น เกรงว่าประชาชนจะสับสน เกิดการใช้ยาที่ผิดไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ของการใช้ยา เกิดการรับประทานยาไม่ครบจำนวน เก็บยาไว้เพราะต้องการแลกไข่ เช่น ยาปฏิชีวนะ ที่ต้องรับประทานให้หมด และเกรงว่าต่อไปก็อาจมีการซื้อยาเพื่อมาแลกไข่ ทั้งนี้ การรับประทานยาของคนไทยในปัจจุบัน ถือว่ายังมีความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง รับประทานยาไม่ครบโด๊ส ชอบคิดว่าหายแล้ว ไม่ต้องทานยาให้หมด ต้องเก็บยาไว้เพื่อป่วยครั้งหน้า จะได้มียารับประทาน ไม่ต้องพบแพทย์ การเก็บยาชอบเก็บในที่ร้อน เก็บในห้องครัวคิดว่าสะดวกง่ายแก่การรับประทาน แต่ความจริงอากาศร้อนทำให้ยาเสื่อม ดังนั้น ไม่สนับสนุนให้มีโครงการยาแลกไข่เกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะจะยิ่งทำให้คนเข้าใจผิด.-สำนักข่าวไทย
จากสำนักข่าว MCOT
กรุงเทพฯ 7 ก.ค.- เภสัชกร ค้านโครงการยาแลกไข่ รอบ 2 ทำคนเข้าใจใช้เรื่องการบริโภคยา ชี้ต่อไปคนไทยรับประทานยาไม่ครบจำนวนโด๊ส หวังนำยาแลกไข่ พร้อมเตือนยาที่เหลือคืนกลับระบบไม่ควรนำมาจ่ายซ้ำ เพราะอาจเป็นยาเสื่อมอายุ ทั้งนี้ เพราะส่วนใหญ่คนไทยบริโภคและเก็บยาผิดวิธี
รศ.ดร.จิราพร ลิ้มปานานนท์ สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวถึงโครงการยาแลกไข่ของกระทรวงสาธารณสุขว่า ไม่สามารถทำให้ได้ตัวเลขที่แท้จริงของการใช้ยาในครัวเรือนจากการเก็บยาเก่ามาแลกไข่นั้น และการอ้างว่าอาจนำยาเก่าที่ใช้ได้มาหมุนเวียนนั้น ในทางหลักการแล้ว จะต้องไม่มีการนำยาที่จ่ายไปแล้วกลับมาใช้หมุนเวียนบริโภคใหม่ เพราะยาที่กลับมานั้นอาจไม่มีคุณภาพ เนื่องจากการเก็บรักษาอาจไม่ถูกต้อง ทำให้ยาหมดอายุเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนให้เกิดโครงการยาแลกไข่อีกนั้น เกรงว่าประชาชนจะสับสน เกิดการใช้ยาที่ผิดไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ของการใช้ยา เกิดการรับประทานยาไม่ครบจำนวน เก็บยาไว้เพราะต้องการแลกไข่ เช่น ยาปฏิชีวนะ ที่ต้องรับประทานให้หมด และเกรงว่าต่อไปก็อาจมีการซื้อยาเพื่อมาแลกไข่ ทั้งนี้ การรับประทานยาของคนไทยในปัจจุบัน ถือว่ายังมีความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง รับประทานยาไม่ครบโด๊ส ชอบคิดว่าหายแล้ว ไม่ต้องทานยาให้หมด ต้องเก็บยาไว้เพื่อป่วยครั้งหน้า จะได้มียารับประทาน ไม่ต้องพบแพทย์ การเก็บยาชอบเก็บในที่ร้อน เก็บในห้องครัวคิดว่าสะดวกง่ายแก่การรับประทาน แต่ความจริงอากาศร้อนทำให้ยาเสื่อม ดังนั้น ไม่สนับสนุนให้มีโครงการยาแลกไข่เกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะจะยิ่งทำให้คนเข้าใจผิด.-สำนักข่าวไทย
จากสำนักข่าว MCOT
ประชาสัมพันธ์ กิ๊ฟชอป
http://www.siamshop.com/n6uy8q88ct92345
ลิงค์ประชาสัมพันธ์
เข็มกลัด
พวงกุญแจ
ที่เปิดขวดแม่เหล็ก
พวงกุญแจแบบกระจก
แก้ว
เสื้อ
ช่วงนี้หน้าฝน ระวังเป็นหวัดกันนะครับ
ลิงค์ประชาสัมพันธ์
เข็มกลัด
พวงกุญแจ
ที่เปิดขวดแม่เหล็ก
พวงกุญแจแบบกระจก
แก้ว
เสื้อ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)